B.Care Medical Center | โรงพยาบาล บี.แคร์ เมดิคอลเซ็นเตอร์
02 532 4444
ติดต่อสอบถาม 02 532 4444
หน้าแรก / บทความสุขภาพ / ไส้เลื่อน โรคที่ไม่ควรเลื่อนผ่าน
ไส้เลื่อน โรคที่ไม่ควรเลื่อนผ่าน
21 เมษายน 2025

ไส้เลื่อน (Hernia) คืออะไร

ไส้เลื่อน (Hernia) เกิดจากการมีเนื้อเยื่อบริเวณหน้าท้องหรือขาหนีบที่ไม่แข็งแรง จนส่วนหนึ่งของลําไส้หรือเนื้อเยื่อไขมันในช่องท้องสามารถยื่นดันผ่านบริเวณที่ไม่แข็งแรงเพียงพอออกมาได้ เมื่อเป็นโรคไส้เลื่อน จะปรากฏมีก้อนนูนยื่นออกมาจนสังเกตหรือสัมผัสได้ โรคไส้เลื่อนไม่สามารถหายเองได้ และหากปล่อยทิ้งไว้อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง

 

ไส้เลื่อนเป็นโรคที่พบได้ทุกเพศทุกวัย และแบ่งออกได้หลายชนิดตามตำแหน่งและสาเหตุของการเกิดโรค เช่น

  • ไส้เลื่อนบริเวณขาหนีบ (inguinal hernia) เป็นไส้เลื่อนชนิดที่พบมากที่สุด และมักพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง  ไส้เลื่อนชนิดนี้มี 2 ลักษณะคือ
    • เป็นไส้เลื่อนบริเวณขาหนีบที่เกิดจากผนังหน้าท้องส่วนล่างหย่อนยาน ทำให้มีลำไส้ยื่นออกมาบริเวณหัวหน่าว (direct inguinal hernia)
    • เป็นไส้เลื่อนที่เคลื่อนออกมาตามรูเปิดบริเวณขาหนีบ (indirect inguinal hernia) ซึ่งรูเปิดนี้เดิมเป็นทางออกของเลือดที่มาเลี้ยงลูกอัณฑะระหว่างพัฒนาการของทารกในครรภ์มารดาและจะปิดไปตามธรรมชาติ แต่เกิดความผิดปกติที่ทำให้รูเปิดยังคงอยู่ ทำให้ลำไส้หรือแผ่นไขมันเคลื่อนออกมาได้ และอาจเคลื่อนต่อเนื่องไปยังถุงอัณฑะ
  • ไส้เลื่อนบริเวณต่ำกว่าขาหนีบ (femoral hernia) พบในตำแหน่งต้นขาด้านในหรือที่เรียกว่าช่อง femoral canal แต่พบได้ค่อนข้างน้อยและมักพบเฉพาะในผู้หญิง โดยสาเหตุอาจเกิดจากผนังของ ช่อง femoral canal อ่อนแอแต่กำเนิด หรือเป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นภายหลัง
  • ไส้เลื่อนบริเวณแผลผ่าตัด (incisional hernia) เป็นไส้เลื่อนที่เกิดกับผู้ที่เคยเข้ารับการผ่าตัดภายในช่องท้องมาก่อน หรืออาจเกิดระหว่างที่แผลผ่าตัดยังไม่หายสนิทก็ได้ โดยพบได้ทุกเพศทุกวัยเนื่องจากการผ่าตัดทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องอ่อนแอหรือหย่อนยานจนลำไส้หรืออวัยวะอื่นๆ ดันตัวขึ้นมา
  • ไส้เลื่อนบริเวณสะดือ (umbilical hernia) มักพบในเด็กทารกที่คลอดก่อนกำหนด เนื่องจากผนังหน้าท้องส่วนที่อยู่ใต้ชั้นของผิวหนังยังปิดไม่สนิท ทำให้บางส่วนของลำไส้เคลื่อนตัวออกมาอยู่ใต้สะดือและดันจนสะดือโป่งหรือที่เรียกกันว่า สะดือจุ่น แต่ไส้เลื่อนสะดือยังสามารถเกิดในผู้ใหญ่ได้
  • ไส้เลื่อนบริเวณข้างกล้ามเนื้อหน้าท้อง (spigelian hernia) เป็นไส้เลื่อนชนิดที่พบได้ไม่บ่อยนักแต่มีความรุนแรงซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต เนื่องจากอยู่ในตำแหน่งกล้ามเนื้อหน้าท้องที่เรียกกันว่าซิกซ์แพ็ก
  • ไส้เลื่อนกะบังลม (hiatal hernia) เกิดจากการที่ผนังกะบังลมหย่อนยานหรือมีช่องเปิดในกะบังลมแต่กำเนิด ทำให้กระเพาะอาหารส่วนบนเคลื่อนขึ้นไปยังบริเวณช่วงอก เป็นภาวะไส้เลื่อนที่พบได้ในผู้สูงวัย
  • ไส้เลื่อนภายในช่องเชิงกราน (obturator hernia) เป็นไส้เลื่อนชนิดที่พบได้น้อยมากและมีความรุนแรงค่อนข้างมาก มักพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายโดยเฉพาะผู้หญิงสูงวัยที่มีรูปร่างผอมบาง

 

ผู้หญิงเป็นไส้เลื่อนได้หรือไม่

โรคไส้เลื่อนสามารถพบในผู้หญิงได้ ได้โดยมักพบในเพศหญิงอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป ซึ่งสาเหตุของการเกิดไส้เลื่อนในผู้หญิงมักเกิดจาก

  • แผลเป็นจากผ่าคลอดบุตร หรือการผ่าตัดโรคอื่น ๆ ที่บริเวณหน้าท้องซึ่งทำให้ผนังกล้ามเนื้อหน้าท้องไม่แข็งแรง
  • การออกกำลังกายที่ทำให้ความดันในช่องท้องสูงขึ้น เช่น การซิทอัพ หรือการออกกำลังที่มีการเกร็งหน้าท้อง
  • ไอหรือจามเรื้อรัง
  • ยกของหนัก

ไส้เลื่อน มีอาการอย่างไร

  • มีก้อนนูนบริเวณผนังหน้าท้อง ขาหนีบ หรือถุงอัณฑะ ซึ่งสามารถดันกลับเข้าไป หรือหายไปเมื่อนอนราบ และก้อนจะนูนออกมาอีกครั้งหากไอ จาม ร้องตะโกน หัวเราะ หรือเบ่งอุจจาระหรือปัสสาวะ
  • ก้อนนูนจะมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ
  • รู้สึกปวดหน่วง ๆ ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปจะรู้สึกปวดมากขึ้น
  • ปวดเวลาต้องยกของ
  • รู้สึกแน่นท้อง ท้องอืด หรือมีภาวะลําไส้อุดตัน

สำหรับโรคไส้เลื่อนกะบังลมนั้น จะไม่มีก้อนนูนให้เห็นจากภายนอก แต่ผู้ป่วยจะมีอาการกลืนลำบาก ปวดแสบปวดร้อนกลางอก อาหารไม่ย่อย อาเจียน เจ็บหน้าอก

ไส้เลื่อน สาเหตุเกิดจากอะไร

  • ไส้เลื่อนบริเวณขาหนีบและไส้เลื่อนบริเวณต่ำกว่าขาหนีบ เกิดจากการที่มีเนื้อเยื่ออ่อนแอตั้งแต่กำเนิด หรือเนื่องจากอายุที่มากขึ้น หรือการออกแรงเบ่งท้องเป็นเวลานาน เช่น การยกของหนักเป็นประจำ ไอเรื้อรัง ท้องผูกเรื้อรัง หรือเบ่งปัสสาวะจากภาวะต่อมลูกหมากโต
  • ไส้เลื่อนบริเวณสะดือ อาจเกิดจากการออกแรงเบ่งบริเวณช่องท้อง การมีน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์ การไอแรง ๆ ติดต่อกันเป็นเวลานาน หรือการคลอดบุตร
  • ไส้เลื่อนกระบังลม อาจเกิดจากอายุที่มากขึ้นทำให้ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อกระบังลมลดลง

การรักษาไส้เลื่อน มีวิธีการอย่างไร

เนื่องจากโรคไส้เลื่อนไม่สามารถหายได้เอง ยกเว้นไส้เลื่อนสะดือขนาดเล็กในเด็กเล็กซึ่งอาจปิดได้เองเมื่อก่อนอายุครบ 5 ขวบ การรักษาโรคไส้เลื่อนจึงจำเป็นต้องใช้วิธีการผ่าตัดเกือบทั้งหมด  ตัวอย่างเช่น การผ่าตัดไส้เลื่อนสะดือมักแนะนําในเด็กเล็กที่ไส้เลื่อนยังไม่ปิดเองเมื่ออายุได้ประมาณ 5 ขวบ สำหรับผู้ใหญ่ที่เป็นโรคไส้เลื่อนสะดือควรเข้ารับการผ่าตัด เพราะหากปล่อยทิ้งไว้จะยิ่งทำให้เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน

  • การผ่าตัดแบบเปิด เป็นการผ่าตัดแบบดั้งเดิม ซึ่งจะเป็นการผ่าเปิดผิวหนังและเนื้อเยื่อที่ตําแหน่งบนไส้เลื่อน ศัลยแพทย์จะสามารถเห็นโครงสร้างภายในได้ครบถ้วน สามารถดันก้อนนูนกลับเข้าที่ และเย็บผนังกล้ามเนื้อที่อ่อนแอเข้าด้วยกัน โดยอาจมีการใช้แผ่นตาข่ายพิเศษเสริมความแข็งแรง
  • การส่องกล้องผ่าตัด ศัลยแพทย์จะกรีดแผลขนาดเล็กเพื่อใส่กล้องและเครื่องมือผ่าตัดเข้าไปในบริเวณที่ต้องการผ่าตัด วิธีนี้มีข้อดีในเรื่องระยะเวลาพักรักษาตัวในโรงพยาบาลที่สั้นลง ผู้ป่วยฟื้นตัวจากการผ่าตัดได้เร็วขึ้น และมีอาการปวด เลือดออก และรอยแผลเป็นหลังการผ่าตัดน้อยลง

ไส้เลื่อน มีภาวะแทรกซ้อนอย่างไร

มีเพียงโรคไส้เลื่อนบริเวณสะดือในทารกเท่านั้นที่สามารถหายได้เอง แต่โรคไส้เลื่อนประเภทอื่น ๆ มักมีอาการแย่ลงและเกิดภาวะแทรกซ้อนได้หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษา

ไส้เลื่อนบริเวณขาหนีบและไส้เลื่อนบริเวณต่ำกว่าขาหนีบอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนดังต่อไปนี้

  • ไส้เลื่อนติดค้าง ไม่สามารถดันกลับได้: บางส่วนของลําไส้อาจติดอยู่บริเวณช่องขาหนีบ ทำให้เกิดอาการปวดท้อง  คลื่นไส้อาเจียน
  • ลำไส้ถูกรัดบริเวณรอยคอดของรูไส้เลื่อนจนเกิดภาวะลําไส้ขาดเลือดและเน่าตาย  การที่ลำไส้บางส่วนขาดเลือดจนเน่าตาย จะเกิดสารพิษและการติดเชื้อ ซึ่งอาจแพร่เข้าสู่กระแสเลือดได้ โดยภาวะดังกล่าวถือเป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ 

ไส้เลื่อน มีวิธีการป้องกันอย่างไร

  • ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตราฐาน
  • ออกกําลังกายเป็นประจํา อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน
  • เพิ่มการรับประทานผัก ผลไม้ และธัญพืชไม่ขัดสีในมื้ออาหารประจําวัน เพื่อป้องกันอาการท้องผูก
  • เรียนรู้วิธีหรือท่าทางการยกของหนักที่เหมาะสม
  • ควรพบแพทย์หากจามหรือไอติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราะอาการไอเรื้อรังจะไปกระตุ้นให้เกิดโรคไส้เลื่อนได้
  • เลิกสูบบุหรี่ การสูบบุหรี่ทำให้ไอบ่อยซึ่งเป็นสาเหตุหลักอย่างหนึ่งของโรคไส้เลื่อน
บทความสุขภาพ
Copyright © 2020 Bcaremedicalcenter. All Rights Reserved.