B.Care Medical Center | โรงพยาบาล บี.แคร์ เมดิคอลเซ็นเตอร์
02 532 4444
ติดต่อสอบถาม 02 532 4444
หน้าแรก / บทความสุขภาพ / โรคไข้หูดับ ไม่ใช่แค่เรื่องหมูๆ
โรคไข้หูดับ ไม่ใช่แค่เรื่องหมูๆ
27 กุมภาพันธ์ 2024

หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่า “โรคไข้หูดับ” มีสาเหตุมาจากอะไร และติดต่อได้อย่างไร แต่ความจริงแล้วเป็นโรคที่อยู่ใกล้ตัวเรามาก เพราะมีสาเหตุมาจากการที่รับประทานอาหารประเภท ปิ้งย่าง ชาบู หมูกระทะ สุกี้หรือจิ้มจุ่ม แล้วใช้ตะเกียบอันเดียวกันคีบหมูดิบลงหม้อ และนำตะเกียบนั้นคีบอาหารเข้าปาก ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้เปรียบเสมือนเรารับประทานหมูดิบ ที่ไม่ผ่านการปรุงสุก ส่งผลให้มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อต่างๆ และหากมีอาการรุนแรงก็อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้
 

สาเหตุ “โรคไข้หูดับ” เกิดจากอะไร ?

เกิดจากการติดเชื้อสเตรฟโตคอกคัส ซูอิส (Streptococcus Suis) เป็นเชื้อแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในหมูเกือบทุกตัว โดยเชื้อชนิดนี้จะไม่ก่อให้เกิดโรค แต่หากหมูเกิดอาการป่วยเชื้อชนิดนี้ก็จะค่อยๆ เพิ่มจำนวนมากขึ้น จนทำให้หมูตัวนั้นตาย และสามารถติดต่อไปสู่คนได้ 2 ทาง คือ

  1. จากการบริโภคเนื้อและเลือดหมูแบบดิบ หรือสุกๆ ดิบๆ
  2. การสัมผัสเนื้อหมูที่มีเชื้อโดยตรง จากทางบาดแผล เยื่อบุตา และสัมผัสสารคัดหลั่งของหมู

​​​​​​​

อาการโรคไข้หูดับ ที่ต้องรีบพบแพทย์

จะมีระยะฟักตัวในร่างกายก่อนที่จะแสดงอาการไม่เกิน 3-5 วัน ส่วนใหญ่จะมีอาการไข้สูง ปวดท้อง ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะจนทรงตัวไม่ได้ บางรายที่มีอาการรุนแรงก็จะส่งผลให้เยื้อหุ้มสมองอักเสบ และเกิดภาวะแทรกซ้อนทำให้ประสาทหูอักเสบจนหูดับหรือหูหนวก ดังนั้น หากมีอาการเหล่านี้ให้รีบมาพบแพทย์ เพราะหากปล่อยไว้อาจทำให้ติดเชื้อในกระแสเลือด และส่งผลให้อันตรายถึงชีวิตได้อีกด้วย

 

การรักษาโรคไข้หูดับ

รักษาด้วยการให้ยาปฏิชีวนะผ่านทางหลอดเลือดดำ อย่างน้อย 2-3 สัปดาห์ และรักษาแบบประคับประคองอาการของผู้ป่วยไม่ให้รุนแรงยิ่งขึ้น คือ ลดไข้ ลดอาการปวด ลดอาการเวียนศีรษะ ร่วมกับการให้สารอาหารหรือเกลือแร่ต่างๆ ให้กับผู้ป่วย

 

การป้องกันโรคไข้หูดับ

  1. หลีกเลี่ยงการรับประทานเนื้อหมูดิบ โดยจะต้องปรุงให้สุกด้วยความร้อนอย่างน้อย 70 องศาเซลเซียส และใช้เวลาอย่างน้อย 10 นาที ก่อนรับประทาน
  2. หลีกเลี่ยงการสัมผัสเนื้อหมูสด หรือยังไม่ผ่านการปรุงสุก ด้วยการใส่ถุงมือ และต้องล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง
  3. หลีกเลี่ยงการนำเนื้อหมูที่ป่วยหรือตายโดยไม่ทราบสาเหตุ มารับประทาน
  4. หลีกเลี่ยงการซื้อเนื้อหมูที่มีกลิ่นคาวหรือสีคล้ำ ควรเลือกซื้อจากแหล่งจำหน่ายที่ได้มาตรฐาน สะอาด ผ่านการรับรองจากกรมปศุสัตว์ หรือกรมอนามัย
  5. หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์อันเดียวกันที่ใช้หยิบเนื้อหมูสุก และเนื้อหมูดิบ
  6. หากมีอาการผิดปกติ เช่น ไข้สูง ปวดศีรษะ ท้องเสีย หลังจากการกินเนื้ออาหารสุกๆดิบๆ ให้รีบไปพบแพทย์ทันที

อย่างนี้จะเห็นได้ว่า ก่อนทำอาหารทุกครั้งจะต้องให้ความสำคัญในการทำความสะอาดเนื้อสัตว์ และต้องผ่านการปรุงสุก เพื่อช่วยป้องกันเชื้อแบคทีเรีย และความลดเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนของโรคไข้หูดับที่อาจตามมา

บทความสุขภาพ
Copyright © 2020 Bcaremedicalcenter. All Rights Reserved.