การดูแลสุขภาพจิต ในช่วงวิกฤต COVID-19
30 เมษายน 2021
เมื่อเกิดปัญหาการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งมีข้อมูลมาจากหลายภาคส่วนที่อัพเดทกันเป็นรายวันเสียจนไม่รู้ว่าสถานการณ์ที่เผชิญหน้าอยู่ในระดับใดกันแน่จากข้อมูลข่าวสารทั้งในและต่างประเทศที่พูดถึงความน่ากลัว และการกลายพันธุ์ของไวรัสตัวนี้ย่อมส่งผลต่อความเครียดและความวิตกกังวลให้กับทุกคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ยังต้องเดินทางไปทำงานอยู่ รวมถึงคนที่ทำ Social Distance เช่นกัน เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้ คนทำงานเองก็ต้องดูแลสุขภาพจิตใจให้แข็งแรงซึ่งไม่เพียงมีผลกับการดำเนินชีวิต แต่ยังส่งผลดีต่อการทำงานท่ามกลางความตึงเครียดนี้ด้วย คำแนะนำการดูแลสุขภาพจิตในช่วงไวรัสโควิด-19 มีดังนี้
- มีสติและอยู่กับปัจจุบัน ทำความเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมได้ ดังนั้น ควรมีสติกลับมาอยู่กับปัจจุบัน กล้าเผชิญหน้ากับปัญหา รู้เท่าทันและเปิดรับการมีอยู่ของอารมณ์ความรู้สึก คือ วิธีรับมือที่ดีที่สุด
- ค้นพบตัวตนในมุมใหม่ การมีเวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้นทำให้ค้นพบตัวตนในมุมใหม่ ๆ ที่ไม่เคยรู้มาก่อน เช่น พบว่าตัวเองสามารถทำอาหารได้อร่อย หรือจากที่เคยคิดว่าการลดน้ำหนักเป็นเรื่องยาก ก็ใช่ช่วงนี้ซุ่มฟิตหุ่น ออกกำลังกาย เปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ที่ดีขึ้น บางคนค้นพบอาชีพใหม่ ทำอาหารเอง หรือขายของออนไลน์
- ติดตามข่าวสารแต่พอดี การรับรู้ข้อมูลมากเกินไป อาจทำให้เกิดความวิตกกังวลได้ ดังนั้นควรติดตามข่าวสารแต่พอดี และเลือกเสพเฉพาะแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ เช่น หน่วยงานรัฐบาล และองค์กรด้านสาธารณสุข
- ส่งต่อพลังใจที่สร้างสรรค์ แม้ต้องเว้นระยะห่างทางสังคม แต่ยังสามารถส่งต่อพลังใจให้กันได้ ผ่านแชทแอปพลิเคชั่น Video Call หรือหากเดินผ่านก็ส่งรอยยิ้มทักทายกันได้ตามปกติ ถึงจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยแต่ก็ช่วยคลายความรู้สึกโดดเดี่ยวของตัวเองและคนรอบข้างได้
- ปรึกษาจิตแพทย์ ปัจจุบันการปรึกษาจิตแพทย์นั้นไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เพราะนอกจากจะช่วยรักษาสุขภาพจิตได้อย่างถูกวิธีแล้ว ยังทำให้เรารับมือกับปัญหาอื่น ๆ ได้ดีขึ้นด้วย
แม้ว่าการทำงานจะเป็นสิ่งสำคัญ แต่สุขภาพกายและใจก็สำคัญไม่แพ้กัน ฉะนั้นระหว่างอยู่ในช่วงกักตัวการดูแลสุขภาพจิตก็เป็นสิ่งจำเป็นที่ไม่อาจละเลยได้ เพราะหากสุขภาพจิตย่ำแย่จากการวิตกกังวลมากเกินไปย่อมส่งผลเสียตามมากับการทำงานหลังจากนี้อย่างแน่นอน
ที่มา : คลังความรู้สุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข
ขอบคุณภาพประกอบจาก freepik