เพราะสุขภาพตาและการมองเห็นที่ดี ช่วยให้คุณมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แม้ว่าจะไม่มีอาการผิดปกติในการมองเห็นใดๆ แต่การตรวจสุขภาพตาถือเป็นสิ่งจำเป็น สำหรับบุคคลทั่วไปควรได้รับการตรวจสุขภาพตา (รวมทั้งตรวจจอประสาทตา) ทุก 2-4 ปี และสำหรับผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปี ควรได้รับการตรวจสุขภาพตา ทุก 1 – 2 ปี หากพบว่ามีความผิดปกติทางตา หรือเป็นโรคตา ควรไปพบจักษุแพทย์ เพื่อรับการรักษาแต่เนิ่นๆ สามารถช่วยป้องกันความพิการทางสายตาได้
 

1. เครื่องตรวจตา OCT คืออะไร

Optional Coherence Tomography หรือ OCT เป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ใช้ตรวจวิเคราะห์ภาพตัดขวางเป็นภาพ 2 และ 3 มิติ บริเวณขั้วประสาทตา ชั้นของจอประสาทตา และจุดรับภาพ ด้วยการใช้แสงเลเซอร์ ภาพที่ได้สามารถเห็นลึกถึงชั้นต่างๆ ของจอตา ซึ่งละเอียดถึง 10-15 ไมครอน

2. ข้อดีของการตรวจตาด้วยเครื่อง OCT คืออะไร

• ทำได้ง่าย รวดเร็ว ละเอียด แม่นยำ
• ไม่เจ็บปวด
• ไม่ต้องฉีดยา หรือสัมผัสรังสีใดๆ
• ดูความผิดปกติได้ทันที
• ติดตามการรักษาได้อย่างแม่นยำ

3. เครื่องตรวจตา OCT วินิจฉัยโรคอะไรได้บ้าง

• โรคจอประสาทตาผิดปกติจากโรคเบาหวาน
• โรคจอประสาทตาเสื่อม โดยมีความเสี่ยงสูงในผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปี
• โรคจุดรับภาพบวมจากภาวะต่างๆ เช่น เบาหวาน เส้นเลือดดำที่จอประสาทตาอุดตัน
• โรคจุดรับภาพฉีกขาด
• ภาวะพังผืดที่จอประสาทตาและจุดรับภาพ
• ภาวะจอประสาทตาหลุดลอก
• ภาวะเส้นเลือดผิดปกติที่จอประสาทตา
• โรคต้อหิน ซึ่งมีความเสี่ยงในผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปี
• โรคต้อกระจก
   

4. ขั้นตอนการตรวจวิเคราะห์ขั้วประสาทตา ด้วยเครื่อง OCT

• ผู้เข้ารับการตรวจนั่งอยู่หน้าเครื่องตรวจเหมือนการตรวจตาทั่วไป
  โดยไม่ต้องหยอดยาขยายรูม่านตา และไม่มีอุปกรณ์หรือรังสีใดๆ มาสัมผัสที่ดวงตา
• ผู้ตรวจจะทำการตรวจตาทีละข้าง โดยใช้เวลาในการตรวจไม่นาน
   

5. ใครบ้างที่ควรตรวจสุขภาพตา

• ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดัน ภูมิคุ้มกันบกพร่อง
• ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคต้อหิน กระจกตาเสื่อม จอประสาทตาเสื่อม
• การได้รับยาบางชนิดที่มีผลกับตา เช่น สเตียรอยด์
• ผู้ที่ใช้สายตาในการทำงานมาก
• ผู้ที่ใช้คอนแทคเลนส์เป็นประจำ

กรุณาทำนัดหมายล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน

สอบถามข้อมูล : ติดต่อได้ที่ คลินิกตา ชั้น 1 อาคารบัณดารี เปิดให้บริการทุกวัน

โทร 02-532-4444 ต่อ 1104 โรงพยาบาล บี.แคร์ เมดิคอลเซ็นเตอร์