B.Care Medical Center | โรงพยาบาล บี.แคร์ เมดิคอลเซ็นเตอร์
02 532 4444
ติดต่อสอบถาม 02 532 4444
หน้าแรก / บทความสุขภาพ / Shock Wave คลื่นกระแทก กับการรักษาอาการปวดเรื้อรัง
Shock Wave คลื่นกระแทก กับการรักษาอาการปวดเรื้อรัง
09 มีนาคม 2023

 

Shock wave หรือ การรักษาด้วยคลื่นกระแทก เป็นเทคโนโลยีใหม่ ที่ใช้ในการรักษาอาการปวดเรื้อรัง ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งเป็นที่นิยมในปัจจุบัน เนื่องจากสามารถลดอาการปวดที่เรื้อรังได้ทันทีหลังการรักษา เครื่อง Shock wave ได้การรับรองเครื่องหมาย ความปลอดภัยจาก FDA สหรัฐอเมริกา จึงมั่นใจได้ว่ามีความปลอดภัยสูงในรักษา

คลื่นกระแทก (Shock wave) คืออะไร

Shock wave คือ เทคโนโลยีใหม่ทางกายภาพบำบัด โดยใช้คุณสมบัติทางฟิสิกส์ของคลื่นกระแทกที่เกิดจากการอัดของอากาศ ส่งผ่านพลังไปยังบริเวณกล้ามเนื้อที่ตึงตัว กระตุ้นให้เนื้อเยื่อเกิดการบาดเจ็บใหม่ (Re-injury) หลังจากนั้นร่างกายจะเกิดกระบวนการซ่อมแซม และสร้างเนื้อเยื่อขึ้นใหม่ (Re-healing) จึงช่วยให้อาการปวดลดลง และกล้ามเนื้อมีความยืดหยุ่นมากขึ้น การทำ Shock wave แต่ละครั้งจะใช้จำนวนนัดยิงประมาณ 2,000-3,000 นัด

ประโยชน์ของการรักษาด้วย Shock wave

ประโยชน์ของการรักษาอาการปวดด้วยเครื่อง Shock wave มีมากมาย คลื่นกระแทกสามารถส่งพลังงานผ่านผิวหนังลงลึกเข้ากล้ามเนื้อและเส้นเอ็นได้ประมาณ 3-4 เซนติเมตร ทำให้เกิดผลทางชีวภาพในเนื้อเยื่อดังต่อไปนี้

  • กระตุ้นการซ่อมแซมเนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น
  • กระตุ้นให้เกิดการสร้างหลอดเลือดใหม่
  • กระตุ้นการไหลเวียนเลือด
  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
  • ยับยั้งกระบวนการอักเสบ
  • ลดอาการปวดกล้ามเนื้อ และจุดกดเจ็บเกิดการผ่อนคลาย
  • ช่วยสลายหินปูนในเส้นเอ็น
  • กระตุ้นให้ร่างกายเกิดอาการบาดเจ็บใหม่ และเกิดกระบวนการซ่อมแซมเนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นใหม่

อาการที่เหมาะกับการรักษาด้วย Shock wave

  • อาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง
  • อาการของ office syndrome
  • อาการปวดคอ บ่า ไหล่
  • อาการปวดหลัง
  • อาการปวดสะโพก
  • อาการปวดส้นเท้า โรครองช้ำ
  • เส้นเอ็นอักเสบ
  • อาการปวดข้อศอก ข้อมือ

การดูแลตัวเองหลังการทำ Shock wave

หลังเข้ารับการรักษาด้วย Shock wave ในบริเวณที่รักษาอาจมีอาการปวดระบมได้ เนื่องจากแรงกระตุ้นของคลื่นกระแทก โดยอาจมีอาการ 1-2 วัน หลังจากนั้น อาการปวด หรือความตึงตัวของกล้ามเนื้อจะลดลง โดยสามารถลดการระบมของกล้ามเนื้อได้โดยควรพักการใช้งานหนัก หรือการออกกำลังกายบริเวณที่ได้รับการรักษา 1-2 วัน ยืดกล้ามเนื้อเบาๆ หลีกเลี่ยงการนวด เพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบมากยิ่งขึ้น

ผลลัพธ์ และระยะเวลาการรักษา

ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการปวดน้อยหรือเพิ่งเริ่มมีอาการ การใช้ Shock wave จะเห็นผลทันทีหลังรักษา ส่วนผู้ป่วยที่มีอาการปวดมาก พบว่าอาการปวดลดลงได้ 50% การรักษาด้วยคลื่นกระแทกควรเว้นระยะห่างของการรักษา 5-7 วัน เพื่อให้ร่างกายเกิดการซ่อมแซมเนื้อเยื่อก่อนที่จะเริ่มการรักษาครั้งถัดไป โดยการรักษาด้วย shock wave สามารถทำควบคู่ไปกับการรักษาทางกายภาพบำบัดชนิดอื่นได้ เช่น อัลตราซาวนด์ หรือ เลเซอร์ ซึ่งจะส่งเสริมให้การรักษาดียิ่งขึ้น

จำนวนครั้งที่ใช้ในการรักษา จะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการบาดเจ็บของผู้ป่วย โดยประมาณ 3-5 ครั้ง

อาการข้างเคียงที่อาจเกิดหลังทำ Shock wave

  • บวม ผื่นแดง
  •  ห้อเลือด
  • จุดเลือดออก
  • อาการปวดชั่วคราว
  • เป็นก้อนเลือด

อาการเหล่านี้ส่วนมากจะหายภายใน 5-10 วัน แต่หากผู้ป่วยพบอาการดังกล่าวเกินระยะเวลานี้ ควรติดต่อพบแพทย์

ข้อห้ามในการรักษาด้วยคลื่น Shock wave

  • บริเวณที่มีการติดเชื้อ
  • บริเวณที่มีเนื้องอก
  • บริเวณที่เป็นแผล
  • บริเวณที่มีการอักเสบของเส้นประสาท
  • บริเวณที่มีหลอดเลือดโป่งพอง

ผู้ที่ไม่เหมาะกับการทำ Shockwave

กลุ่มที่ไม่เหมาะกับการรักษาด้วยคลื่นกระแทก Shockwave ได้แก่

  • เด็ก ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 
  • สตรีที่กำลังตั้งครรภ์
  • ผู้ป่วยมะเร็ง
  • ผู้ที่มีภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำส่วนลึก
  • ผู้มีภาวะเลือดแข็งตัวช้า
  • ผู้ที่ใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ
  • ผู้ที่ได้รับการฉีดยาสเตียรอยด์มาภายใน 6 สัปดาห์

แล้วเราจะทราบได้อย่างไรว่าเราควรเลือกรักษาอาการปวดของเรา ด้วยเทคโนโลยี Shock wave  จากแพ็กเกจลดอาการปวดที่ รพ.บี.แคร์ฯ อย่างไรดี

  • แพ็กเกจลดอาการปวด Special  เหมาะสมกับผู้ที่มีอาการปวดเฉียบพลัน, เรื้อรัง และ Office syndrome
  • แพ็กเกจลดอาการปวด Advance เหมาะสมกับผู้ที่มีอาการปวดเฉียบพลัน, เรื้อรังหลายตำแหน่งและ Office syndrome

เพียงเท่านี้ก็จะสามารถเลือกแพ็กเกจที่เหมาะสมกับอาการปวดของแต่ละบุคคลได้แล้วค่ะ

Copyright © 2020 Bcaremedicalcenter. All Rights Reserved.