จากสถิติจากองค์การอนามัยโลกและสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ระบุ ว่า “มะเร็งปากมดลูก” (cervical cancer) เป็นมะเร็งที่พบเป็นอันดับ 2 ของมะเร็งในสตรีทั่วโลกรองจากมะเร็งเต้านม และมีอัตราการเสียชีวิตสูงหากเข้ารับการรักษาช้า ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโรคที่เป็นภัยใกล้ตัวผู้หญิงกว่าที่คิด
สาเหตุของโรคมะเร็งปากมดลูก
จากข้อมูลทางการแพทย์ยังไม่ทราบชัดว่าสาเหตุที่แท้จริงของมะเร็งนั่นเกิดจากอะไร แต่สาเหตุสำคัญเท่าที่วิทยาการทางการตรวจพบได้ คือ การติดเชื้อ Human Papilloma Virus หรือ HPV บริเวณปากมดลูก ถือเป็นปัจจัยหลัก ในขณะที่ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ เป็นเพียงปัจจัยส่งเสริมทำให้ปากมดลูกมีโอกาสติดเชื้อ HPV ได้มากขึ้น เช่น การมีคู่นอนหลายคน และการมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุน้อย หรือการตั้งครรภ์ตั้งแต่อายุน้อยนั่นเอง
การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกมีอะไรบ้าง ?
วิธีการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกที่ได้รับความนิยมและได้ผลลัพธ์ดี ได้แก่ การตรวจตินเพร็พและการตรวจหาเชื้อไวรัสเอชพีวี ซึ่งประกอบด้วย
เป็นมาตรฐานใหม่ของวิธีการตรวจมะเร็งปากมดลูก โดยแพทย์เก็บเซลล์ บริเวณปากมดลูกด้วยอุปกรณ์เฉพาะ แล้วใส่ลงในขวดน้ำยาตินเพร็พ นำส่งห้องปฏิบัติการ เพื่อเตรียมเซลล์บนสไลด์แก้ว ลักษณะสไลด์เป็นรูปแบบเดียวกัน เซลล์เรียงตัวสม่ำเสมอ และเซลล์เรียงตัวแบบบางไม่ซ้อนทับกัน สามารถมองเห็นเซลล์ที่ผิดปกติได้ง่าย ไม่มีมูกเลือดบดบัง มีข้อมูลการศึกษาวิจัยพบว่า การตรวจหาเซลล์มะเร็งโดยวิธีตินเพร็พ ให้ผลดีกว่าการตรวจแบบดั้งเดิมดังนี้
เป็นการตรวจแบบเจาะลึกระดับดีเอ็นเอ ซึ่งเป็นเทคนิคการตรวจระดับชีวโมเลกุลที่สามารถค้นหาเชื้อเอชพีวีได้ในระยะก่อนที่จะเกิดเป็นมะเร็งปากมดลูก ทำให้สามารถป้องกันและรักษาเชื้อเอชพีวีได้ก่อนที่เชื้อจะพัฒนาเป็นมะเร็งปากมดลูก ซึ่งวิธีนี้มีความแม่นยำอย่างมาก เพราะนอกจากค้นหาความผิดปกติแล้ว ยังทำให้ทราบว่ามีการติดเชื้อเอชพีวีหรือไม่ ถ้าเป็นมะเร็งปากมดลูกต้องมีการติดเชื้อเอชพีวีก่อน ดังนั้นถ้าไม่มีการติดเชื้อสามารถมั่นใจได้ถึง 99 % ว่าในช่วง 1-2 ปีที่รับการตรวจโอกาสเป็นมะเร็งปากมดลูกจะน้อยมาก โดยวิธีการตรวจนี้จะได้ผลดียิ่งขึ้นเมื่อตรวจร่วมกับการตรวจตินเพร็พ
ตรวจมะเร็งปากมดลูกควรเตรียมตัวอย่างไร ?
ทั้งนี้คุณผู้หญิงที่มีความเสี่ยง ควรได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก เพราะ หากพบเชื้อที่ก่อให้เกิดโรค จะได้รับการรักษาได้ทันท่วงที สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือนัดหมายล่วงหน้า
ติดต่อได้ที่ ศูนย์สุขภาพสตรี ชั้น 1 อาคารปานปิติ โทร 02 532 4444 ต่อ 2103, 2104