ไข้อีดำอีแดง (Streptococcal scarlet fever) :  เป็นโรคที่มีมานานแล้วและกลับมาระบาดใหม่ซ้ำซึ่งหลายคนอาจไม่รู้จักและเข้าใจผิดว่าเป็นโรคมือ เท้า ปาก(ในเด็ก) จนทำให้เกิดโรคลุกลามและแทรกซ้อนได้

สาเหตุ

เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียกรุ๊ปเอ สเตรปโตคอคคัส (Group A Streptococcus) ซึ่งเป็นเชื้อที่อยู่ในลำคอ มีคนเป็นพาหะ พบได้ประมาณ ร้อยละ 10-20 เพียงหายใจรดกันหรือสัมผัสกับสารคัดหลั่ง เช่น น้ำมูก น้ำลาย ก็สามารถติดต่อกันได้ และมักจะเป็นในเด็กเล็ก อายุ 5-12 ปี

อาการ

• มีไข้  เจ็บคอ
• ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย
• คลื่นไส้อาเจียน
• มีผื่นแดง บางรายเป็นผื่นหนาสาก บริเวณคอ และกระจายไปตามไปตามตัว แขน ขา และข้อพับ
• ต่อมทอนซิลบวม แดง อาจมีเยื่อปกคลุม
• ลิ้นมีสีแดงและมีตุ่มลิ้นชัด (หรือที่เรียกว่าลิ้นสตรอว์เบอรี)

การรักษา

            การรักษาที่สำคัญ  คือ  การวินิจฉัยตามอาการที่แสดงข้างต้น และอาจมีการตรวจเลือดและตรวจยืนยันจากการเพาะเชื้อจากลำคอ และให้การรักษาอย่างเหมาะสม โดยใช้ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย โดยการรับประทานยาให้ครบ 10 วัน ร่วมกับการรักษาตามอาการ เช่น ยาลดไข้ เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน

ภาวะแทรกซ้อน

            ถ้าคนไข้ไม่ได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้องหรือรับประทานยาไม่ครบ อาจจะเกิดภาวะแทรกซ้อนได้หลังติดเชื้อแล้ว อาจเป็นไข้รูมาติก ปอดอักเสบ ไตอักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ

ถ้าพบว่ามีอาการเหล่านี้ให้รีบเข้ามาพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัย และทำการรักษาที่ถูกต้องจะช่วยควบคุมความรุนแรงของโรคได้ และการดูแลสุขอนามัยอย่างสม่ำเสมอก็จะสามารถช่วยลดการแพร่กระจายของโรคได้

ที่มา : กรมการแพทย์ สถาบันโรคผิวหนัง