รู้จักโรคมือ เท้า ปาก
โรคมือ เท้า ปาก เกิดจากการติดเอนเทอไวรัส พบได้บ่อยในเด็ก โดยเฉพาะวัยเด็กเล็ก ส่งผลให้มีอาการไข้ เป็นแผลในปาก มีตุ่มน้ำใสตามฝ่ามือ ฝ่าเท้า และลำตัว ติดต่อกันได้ง่ายผ่านการสัมผัสน้ำลายหรือสารคัดหลั่งจากตุ่มใสที่เกิดขึ้นบริเวณ มือ เท้า และสามารถติดต่อกันได้จากการใช้สิ่งของร่วมกัน เช่น ของเล่น หรือแก้วน้ำ โดยเฉพาะในฤดูฝนที่มักมีการระบาดของโรคติดเชื้อ ซึ่งสามารถติดต่อจากคนสู่คนได้ ผ่านการไอ จาม หรือสัมผัส โดยทารกและเด็กเล็กจะมีโอกาสป่วยเป็นโรคนี้ได้ง่าย และอาการมักรุนแรงกว่าเด็กโต
สาเหตุ โรคมือ เท้า ปาก
โรคมือ เท้า ปาก เกิดจากการติดเชื้อเอนเทอไวรัส ส่วนใหญ่พบในเด็กเล็ก พบการระบาดบ่อยในโรงเรียนอนุบาลหรือสถานรับเลี้ยงเด็ก แพร่เชื้อผ่านละอองฝอยและการสัมผัส มีระยะฟักตัว 3-6 วัน หลังได้รับเชื้อ จากนั้นจึงเริ่มมีอาการ โดยเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดอาการรุนแรงคือ EV71
โรคมือ เท้า ปาก ติดต่อได้ง่ายมาก อัตราการติดต่อจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งเกือบร้อยละ 100 โดยเฉพาะในเด็ก และช่วงเวลาที่มีการระบาดในเด็กจากการสัมผัสทางน้ำลาย ได้รับเชื้อจากแผลในปากหรือเชื้อเข้าทางปากจากการรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัสมือ เท้า ปาก โดยส่วนใหญ่จะมีการรับเชื้อเข้าทางปากโดยตรง ส่วนน้อยที่จะรับเชื้อทางการหายใจ แต่บางครั้งก็อาจติดมากับมือ ของเล่น การไอจามรดกัน รวมไปถึงการใช้ภาชนะในการรับประทานอาหารร่วมกัน
อาการของโรคมือ เท้า ปาก
การรักษาโรคมือ เท้า ปาก
ส่วนใหญ่เป็นรักษาตามอาการ เนื่องจากเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสจึงไม่มียารักษาโดยตรง ซึ่งมักมีปัญหาเจ็บคอ กินได้น้อย แนะนำให้กินอาหารที่มีอุณหภูมิเย็นๆ เพื่อให้กลืนง่าย เช่น น้ำเย็น น้ำแข็ง ไอศกรีม บางครั้งอาจมีการใช้ยาชาเฉพาะที่ ป้ายในปากแต่ต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง ไม่ใช้มากเกินไปและบ่อยเกินไปเพราะมีอันตรายจากผลข้างเคียงของยาชาได้ แต่ถ้าเจ็บมากพิจารณาให้ใช้ได้เป็นครั้งคราว
โปรแกรมวัคซีนป้องกันโรคมือ เท้า ปาก ชนิดรุนแรงจากเชื้อไวรัส EV71
ปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันโรคมือ เท้า ปาก EV71 ช่วยป้องกันเชื้อเอนเทอโรไวรัส 71 ที่เป็นสาเหตุหลักของอาการรุนแรงและเสี่ยงต่อการเสียชีวิต เช่น มีอาการทางสมอง กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ อาจทำให้ผู้ป่วยมีอาการรุนแรงและมีภาวะสมองอักเสบได้
การวินิจฉัย โรคมือ เท้า ปาก
โดยมากเป็นการวินิจฉัยจากการตรวจร่างกาย แต่ปัจจุบันมีการตรวจเพิ่มเติมโดยตรงเพื่อหาตัวชี้เฉพาะ (PCR) จากสารคัดหลั่งหรืออุจจาระซึ่งต้องใช้เวลา มักจะส่งตรวจในกรณีมีภาวะแทรกซ้อนทางสมอง หรือหัวใจ
การป้องกันโรคมือ เท้า ปาก
ปัจจุบันสามารถป้องกันการแพร่ระบาดในสถานรับเลี้ยงเด็กและโรงเรียนได้ ด้วยการกัดกรองผู้ป่วยและรักษาความสะอาดโดยเฉพาะอุปกรณ์ของเล่นเด็ก หลีกเลี่ยงสัมผัสผู้ป่วยโรคโดยตรงและแยกผู้ป่วยจากผู้อื่น โดยเฉพาะเด็กเล็กในโรงเรียนหรือสถานเลี้ยงเด็กเป็นเวลา 4-7 วัน
สร้างสุขนิสัยที่ดี เช่น หมั่นล้างมือก่อนและหลังรับประทานอาหารและการใช้ห้องน้ำ รับประทานอาหารที่สะอาด สดใหม่ และใช้ช้อนกลางตักเสมอ ทำความสะอาดของเล่น สิ่งของเครื่องใช้ภาชนะ รวมทั้งการกำจัด ผ้า หรือกระดาษสำหรับทำความสะอาดสิ่งคัดหลั่งไม่ให้ปนเปื้อนสู่คนอื่น
การดูแลตนเองเมื่อเป็นโรคมือ เท้า ปาก
การดูแลเด็กที่ป่วยเป็นโรคมือ เท้า ปาก
หากพบว่ามีผู้ป่วยให้รีบแยกออกและเข้ารับการรักษา โรคมือ เท้า ปาก เป็นโรคที่คุณพ่อคุณแม่ควรระวังและให้ความสำคัญอย่างมาก อาจมีความเสี่ยงที่เกิดภาวะแทรกซ้อนที่มีอาการรุนแรงถึงเสียชีวิตได้ เพราะร่างกายของเด็กนั้นบอบบาง ภูมิคุ้มกันก็ยังต่ำ ทำให้เมื่อมีการสัมผัสกับเชื้อโรคต่างๆ รวมถึงเชื้อไวรัสก็จะป่วยหรือมีอาการค่อนข้างมาก